วันอาทิตย์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2555

เที่ยวสิงคโปร์ 3 วัน ฮาสุด ๆ (4)

มาแล้วคะ เล่าต่อนะคะ


หลังกลับมาจาก merlion park โดยสารรถ แท็กซี่ จ่ายไปคันละ 13 เหรียญ อย่างที่เล่ามาตอนต้นนะคะว่า แท็กซี่ที่นี่ เขาให้นั่งได้ไม่เกิน 4 คน แต่ถ้าเป็นเด็ก เขาก็ หยวน

 เราแบ่งนั่งรถ 2 คัน 
คันที่ 1 ผู้ใหญ่ 3 เด็ก 2 รวมเป็น 5
คันที่ 2 ผู้ใหย่ 4 เด็ก 1  รวมเป็น 5
2 คัน ก็ 10 คนพอดี

ขากลับโรงแรม พี่แท็กซี่เขาก็ชวนคุย นะคะ เขาบอกว่า เขาเคยมาเมืองไทย ด้วย
ครีมก็ถามเขาว่า เขาไปทำอะไรที่เมืองไทย 
เขาบอก ว่า เขามาพักผ่อน ที่ ภูเก็ต เขาบอกเมืองไทยสวยมาก

ถึงโรงแรมแล้วคะ

พี่แท็กซี่เขาจอดที่ ถนน ดิกสัน แต่โรงแรม เรา ต้องเดินไปอีก ล๊อก หนึ่ง ซึ่่่งไม่ไกลกัน  แวะที่ร้านค้าของส่ง แถว ๆ โรงแรม ที่นี่เป็นร้านส่ง จำชื่อ ร้าน ไม่ได้ อยู่ ถนน upper weld  ขายของราคาถูกกว่า ห้างมุตาฟาอีก เราซื้อ น้ำดื่มที่ร้านนี้  1.5 ลิตร ราคา 1 เหรียญเอง เลยซื้อ 2 ขวด

พี่อี๊ดที่ไปด้วยกัน เขาให้ครีมถามเจ้าของร้านว่าร้านเขาเปิดกี่โมง เผื่อพรุ่งนี้ ซื้งเป็นวันสุดท้ายของการเดินทาง ถ้าเขาเปิดร้าน ช่วงเช้าเรายังมา ชอปปิงได้อีกวันหนึ่ง 

เราก็ส่งภาษาอังกฤษทันที เจ้าของร้าน เขาก็ตอบ เรา ว่า 
จี คอก ๆ อะไรสักอย่าง

ครีมก็ถามเขาซ้ำว่า             "ร้านของคุณเปิดกี่โมงคะ"

เขาก็ ตอบ                            "จี คอก ๆ " อีก 

คราวนี้ครีมงง  สงสัยว่าภาษาอังกฤษเรา สำเนียงยังใช้ไม่ได้เขาฟังไม่เข้าใจ

เอาใหม่                               "ร้านของคุณเปิดกี่โมงคะ"  ดัชชะรี่ เต็มที่

เขาตอบ เหมือน เดิม พร้อม ชูมือ ขึ้น 10 นิ้ว

เพื่อนร่วมทริป ที่ ฟัง เขาอยู่ ก็ถึง บางอ้อ 

เขาตอบว่า   เจ็น โอ คล๊อก  (เท็น โอ คล๊อก)

ฮามาก.........................................................เลยอะ

ไอ้เราก็นึกว่า ภาษาอังกฤษเรายังดัชชะรี่ ไม่พอ กลายเป็นว่า 

ภาษาอังกฤษสำเนียงไทย  vs ภาษาอังกฤษ สำเนียงอินเดีย เสียนี่ (เจ้าของร้านเป็นคนอินเดีย)

ออกจากร้านเขามา นั่งขำเสียจนท้องแข็ง  ha  ha  ha

ได้เวลาเข้านอน หัวถึงหมอน ก็หลับถึงเข้า


วันที่ 3

วันนี้เป็นวันกลับของเรา ตื่นขึ้นมา ทานอาหารเช้าที่โรงแรมเรียบร้อยแล้ว ก็นั่งรอเพื่อนของเรา เขาอาศัยอยู่ในสิงคโปรเขา จะมาหา พอดีซื้อของไปฝากเขา เลยต้องรอเจอกัน

มานั่งรออยู่หน้าโรงแรม พบกับคนไทย ที่เข้ามาทักทายกันด้วย
เขาบอกว่า วันนี้เขาจะไป ดักทัวร์
เราก็บอกเขา ว่า วันนี้ เราจะกลับแล้วให้เขาเที่ยวให้สนุกนะ
นิสัยคนไทยเราก็อย่างนี้หละเนอะเจอกันในต่างแดนคุยกันเหมือนรู้จักกันมาตั้งนาน เน๊อะ

11 โมงแล้ว วันนี้ไม่โชคดีเหมือนเมื่อวาน ที่ ดูครึมฟ้าครึมฝน วันนี้ ฮ้อน ม าาา กกกก
เพื่อนเรามากแล้ว คุยกันสักพัก พวกเราก็พากันไป ชอปปิ้ง กันต่อที่ มุตตาฟา

น้ำหอมที่นี่ราคาถูกมาก มีอยู่ขวดหนึ่ง ครีม ลองฉีดที่ข้อมือ กลับถึงเมืองไทยแล้วยังหอมอยู่เลย
ชอคแล็ต ที่นี่ ราคาถูกมาก

เลือกกล่องนี้คะ เห็นมี สัญลักษณ์ของประเทศเขาด้วย



เกาะออกมาหน้าตาก็เป็นแบบนี้หละ


กระเป๋าที่ห้างนี้ราคาถูกมา พวก แบรนด์ polo เป็นต้น

ได้เข็มขัด มา 2 เส้น ราคา 8 เหรียญ กับ 9 เหรียญ
และก็พวกขนม ชอคแล็ต ขนมแปลก ๆ

มาเดินห้างมุตาฟา เจอกับคนไทย เยอะเหมือนกัน แหะ เห็นคุยภาษาไทยกัน จ้อ เต็มห้างเลย

ออกมาจากมุตาฟา
เราก็ไป เดินห้างอะไรหวา จำชื่อไม่ได้ อยู่ ใกล้ ๆ กับ MRT Farrer Park
วันนี้แวะกินข้าวที่ห้างนี้แล้วกัน เราเดินไป ร้านอาหารฟาสฟูดของที่นี่สั่ง
ข้าวหน้า ปลาย่างของเขา  มากกินคนละจาน
หลังจากนั้น ก็เดินทาง ไปสนามบิน ซื้อตั๋ว ไป 2.2 เหรียญ + ค่ามัดจำ 1 เหรียญ

นั่ง จากสถานี Farrer Park ไปต่อ รถไฟฟ้าสายสีม่วง ที่ outram park แล้วต่อไป changi airport

ใช้เวลาจาก farrer มาถึง airport ประมาณ 40 นาทีได้

มาถึงสนามบินแชงกีแล้ว ข้าวของพลุงพลัง
ไปเค้าเตอร์เช็คอิน สกู๊ด แอร์ อยู่ที่ เบอร์ 10 ด้านหลังเลย

ต้องบอกเพื่อน ไว้นะคะ ว่า เราต้องจัดกระเป๋า ให้ได้ 7 กก. เปะ เพราะขนาดครีมบอกเจ้าหน้าที่ว่า ของเด็ก กระเป๋ารวมกับผู้ ใหญ่ เขาก็ไม่ยอม เขาบอกว่า 1 ตั๋ว ต่อ 1 กระเป๋า ก็เลยวุ่นกันนิดหน่อย โย้กกระเป๋า ให้ได้ ใบละเจ็ดกิโล

เหนือยจังแต่สนุกมาก

กลับถึงประเทศไทยแล้วนะคะ
รอพบกันใหม่ทริปหน้า
เร็ว ๆ นี้
สวัสดีคะ