เที่ยวสิงคโปร์ 3 วัน ฮาสุด ๆ (4)

มาแล้วคะ เล่าต่อนะคะ

หลังกลับมาจาก merlion park โดยสารรถ แท็กซี่ จ่ายไปคันละ 13 เหรียญ อย่างที่เล่ามาตอนต้นนะคะว่า แท็กซี่ที่นี่ เขาให้นั่งได้ไม่เกิน 4 คน แต่ถ้าเป็นเด็ก เขาก็ หยวน

 เราแบ่งนั่งรถ 2 คัน 

คันที่ 1 ผู้ใหญ่ 3 เด็ก 2 รวมเป็น 5

คันที่ 2 ผู้ใหย่ 4 เด็ก 1  รวมเป็น 5

2 คัน ก็ 10 คนพอดี

ขากลับโรงแรม พี่แท็กซี่เขาก็ชวนคุย นะคะ เขาบอกว่า เขาเคยมาเมืองไทย ด้วย

ครีมก็ถามเขาว่า เขาไปทำอะไรที่เมืองไทย 

เขาบอก ว่า เขามาพักผ่อน ที่ ภูเก็ต เขาบอกเมืองไทยสวยมาก

ถึงโรงแรมแล้วคะ

พี่แท็กซี่เขาจอดที่ ถนน ดิกสัน แต่โรงแรม เรา ต้องเดินไปอีก ล๊อก หนึ่ง ซึ่่่งไม่ไกลกัน  แวะที่ร้านค้าของส่ง แถว ๆ โรงแรม ที่นี่เป็นร้านส่ง จำชื่อ ร้าน ไม่ได้ อยู่ ถนน upper weld  ขายของราคาถูกกว่า ห้างมุตาฟาอีก เราซื้อ น้ำดื่มที่ร้านนี้  1.5 ลิตร ราคา 1 เหรียญเอง เลยซื้อ 2 ขวด

พี่อี๊ดที่ไปด้วยกัน เขาให้ครีมถามเจ้าของร้านว่าร้านเขาเปิดกี่โมง เผื่อพรุ่งนี้ ซื้งเป็นวันสุดท้ายของการเดินทาง ถ้าเขาเปิดร้าน ช่วงเช้าเรายังมา ชอปปิงได้อีกวันหนึ่ง 

เราก็ส่งภาษาอังกฤษทันที เจ้าของร้าน เขาก็ตอบ เรา ว่า 

จี คอก ๆ อะไรสักอย่าง

ครีมก็ถามเขาซ้ำว่า             "ร้านของคุณเปิดกี่โมงคะ"

เขาก็ ตอบ                            "จี คอก ๆ " อีก 

คราวนี้ครีมงง  สงสัยว่าภาษาอังกฤษเรา สำเนียงยังใช้ไม่ได้เขาฟังไม่เข้าใจ

เอาใหม่                               "ร้านของคุณเปิดกี่โมงคะ"  ดัชชะรี่ เต็มที่

เขาตอบ เหมือน เดิม พร้อม ชูมือ ขึ้น 10 นิ้ว

เพื่อนร่วมทริป ที่ ฟัง เขาอยู่ ก็ถึง บางอ้อ 

เขาตอบว่า   เจ็น โอ คล๊อก  (เท็น โอ คล๊อก)

ฮามาก.........................................................เลยอะ

ไอ้เราก็นึกว่า ภาษาอังกฤษเรายังดัชชะรี่ ไม่พอ กลายเป็นว่า 

ภาษาอังกฤษสำเนียงไทย  vs ภาษาอังกฤษ สำเนียงอินเดีย เสียนี่ (เจ้าของร้านเป็นคนอินเดีย)

ออกจากร้านเขามา นั่งขำเสียจนท้องแข็ง  ha  ha  ha

ได้เวลาเข้านอน หัวถึงหมอน ก็หลับถึงเข้า


วันที่ 3

วันนี้เป็นวันกลับของเรา ตื่นขึ้นมา ทานอาหารเช้าที่โรงแรมเรียบร้อยแล้ว ก็นั่งรอเพื่อนของเรา เขาอาศัยอยู่ในสิงคโปรเขา จะมาหา พอดีซื้อของไปฝากเขา เลยต้องรอเจอกัน

มานั่งรออยู่หน้าโรงแรม พบกับคนไทย ที่เข้ามาทักทายกันด้วย
เขาบอกว่า วันนี้เขาจะไป ดักทัวร์
เราก็บอกเขา ว่า วันนี้ เราจะกลับแล้วให้เขาเที่ยวให้สนุกนะ
นิสัยคนไทยเราก็อย่างนี้หละเนอะเจอกันในต่างแดนคุยกันเหมือนรู้จักกันมาตั้งนาน เน๊อะ

11 โมงแล้ว วันนี้ไม่โชคดีเหมือนเมื่อวาน ที่ ดูครึมฟ้าครึมฝน วันนี้ ฮ้อน ม าาา กกกก
เพื่อนเรามากแล้ว คุยกันสักพัก พวกเราก็พากันไป ชอปปิ้ง กันต่อที่ มุตตาฟา

น้ำหอมที่นี่ราคาถูกมาก มีอยู่ขวดหนึ่ง ครีม ลองฉีดที่ข้อมือ กลับถึงเมืองไทยแล้วยังหอมอยู่เลย
ชอคแล็ต ที่นี่ ราคาถูกมาก

เลือกกล่องนี้คะ เห็นมี สัญลักษณ์ของประเทศเขาด้วย

เกาะออกมาหน้าตาก็เป็นแบบนี้หละ

กระเป๋าที่ห้างนี้ราคาถูกมา พวก แบรนด์ polo เป็นต้น

ได้เข็มขัด มา 2 เส้น ราคา 8 เหรียญ กับ 9 เหรียญ
และก็พวกขนม ชอคแล็ต ขนมแปลก ๆ

มาเดินห้างมุตาฟา เจอกับคนไทย เยอะเหมือนกัน แหะ เห็นคุยภาษาไทยกัน จ้อ เต็มห้างเลย

ออกมาจากมุตาฟา
เราก็ไป เดินห้างอะไรหวา จำชื่อไม่ได้ อยู่ ใกล้ ๆ กับ MRT Farrer Park
วันนี้แวะกินข้าวที่ห้างนี้แล้วกัน เราเดินไป ร้านอาหารฟาสฟูดของที่นี่สั่ง
ข้าวหน้า ปลาย่างของเขา  มากกินคนละจาน
หลังจากนั้น ก็เดินทาง ไปสนามบิน ซื้อตั๋ว ไป 2.2 เหรียญ + ค่ามัดจำ 1 เหรียญ

นั่ง จากสถานี Farrer Park ไปต่อ รถไฟฟ้าสายสีม่วง ที่ outram park แล้วต่อไป changi airport

ใช้เวลาจาก farrer มาถึง airport ประมาณ 40 นาทีได้

มาถึงสนามบินแชงกีแล้ว ข้าวของพลุงพลัง
ไปเค้าเตอร์เช็คอิน สกู๊ด แอร์ อยู่ที่ เบอร์ 10 ด้านหลังเลย

ต้องบอกเพื่อน ไว้นะคะ ว่า เราต้องจัดกระเป๋า ให้ได้ 7 กก. เปะ เพราะขนาดครีมบอกเจ้าหน้าที่ว่า ของเด็ก กระเป๋ารวมกับผู้ ใหญ่ เขาก็ไม่ยอม เขาบอกว่า 1 ตั๋ว ต่อ 1 กระเป๋า ก็เลยวุ่นกันนิดหน่อย โย้กกระเป๋า ให้ได้ ใบละเจ็ดกิโล

เหนือยจังแต่สนุกมาก

กลับถึงประเทศไทยแล้วนะคะ
รอพบกันใหม่ทริปหน้า
เร็ว ๆ นี้
สวัสดีคะ


 

เที่ยวสิงคโปร์ 3 วัน ฮาสุด ๆ (3)

หลังจากออกมาจาก ยูนเวิลด์แซลสตูแล้ว เรามาแวะทานข้าวกันที่ vivo city
หลังจากนั้นเดินทางต่อไป merlion park กัน

นั่งรถไฟฟ้า จาก Harbour front มุ่งสู่ สถานี city hall
มาถึงแล้วเดินไปยังห้าง Raffles city shopping centre ห้างนี้เป็นห้างใหญ่ เป็นศูนย์รวม เสื้อผ้า แฟชั่นต่าง ๆ ไหน ๆ มาถึงแล้วเข้าไปเดินสักหน่อย โอว รู้สึกว่าขามันก้าวไม่ค่อยจะออกแล้วหละ ล้าเต็ม ที เพือนร่วมทริป จึงพากันไปเข้าห้องน้ำกัน เพื่อเตรียมตัวเดินต่อไปยัง merlion park
ส่วนครีมแวะซื้อนำโค๊กที่ ร้านแมคโดนอล สักหน่อย ราคาแก้ว ละ 2.5 เหรียญ ชื่นใจ

เพื่อนร่วมทริปพร้อมเดินทางต่อแล้ว เอ ไปทางไหนกันหละทีนี้ สงสัยต้องหาคนถามทางสักหน่อย
ฮามากเลยตอนนี้

ครีมถามคนแถวนั้นว่า
Excuse me.do you know marlion park
คนฟังเขางงมากเลยกับคำถาม
แล้วเขาก็ขอดู แผนที่ที่เราถือ
เราเลยชี้ สถานที่ให้เขาดู
เขาก็ถึงบางอ้อ
แล้วพูดว่า  เหม่ เหล่ อ่อน

ฮา    ........................ มากเลย อะ
ภาษาอังกฤษสำเนียงไทย vs ภาษาอังกฤษสำเนียงจีน  ha ha ha
เขาบอกทางเดินไปข้างหน้าแล้วเลี้ยวซ้ายตรงไปก็ถึง

เราเดินไปถามถนนที่เขาบอกแล้วเดินเข้าถนน coleman  เดินตัวเขาสวนสาธารณะ  esplanade drie ผ่านอนุสาวรีย์ อะไรสักอย่าง ที่สวนสาธารณะมีคนนั่งอยูประปลาย คนกลุ่มวันรุ่น ขับรถมอเตอร์ไซด์มาอวดกันอยู่สัก 2 แก้ง ถ้าเทียบกับบ้านเรา คงประมาณ สวนอำพรกระมัง

เดินต่อไปตามถนน ลอดใต้ถนน fullerton ถึงแล้ว marlion park มีนักท่องเที่ยวที่มาถึงที่นี่เป็นคนไทยเยอะเยอะเลย ด้านข้าง รู้สึกจะมีมินิคอนเสริตอะไรสักอย่าง มีนักร้องร้องเพลง จีน เพลง ฝรั่งสลับกันไป

รูประหว่างเดินข้ามถนนไป marlion park  จะมองเห็นฝั่งตรงข้ามด้วย ที่เห็นเป็นรูปเรือ ก็คือ marina bay sands ที่นี่เป็นตึกขนาดใหญ่ 3 ตึก มีเรือวางอยู่ยอดตึก ที่นี่เป็นโรงแรมที่เป็นศูนย์รวม ของความบันเทิง ความสะดวกสะบาย มีห้าง มีร้อนอาหาร มีคาสิโน มีจุดชมวิว มีพิธิภัณฑ์

แล้วเราก็เดินทางมาถึงแล้วเจ้าสิงค์โตพ่นน้ำ บรรยากาศกลางคืน ก็เก๋ไปอีกแบบหนึง

การเดินทางมาเที่ยวสิงคโปร์สิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือมาถ่ายรูปกับไอ้เจ้าตัวนี้นั้นเอง

ประวัติของเจ้าสิงคโตตัวนี้ คือ เจ้าชายซาง นิลา อุตามะ ไปพบเข้าตอนที่ค้นพบเกาะสิงคโปร์แห่งนี้

หัวเป็นสิงโต แต่หางเป็นปลา คำแปลของชื่อ เทมาเส็ก

 ตัวจริงที่คนพบ



เร็ว ๆ เพื่อน ๆ หยุดถ่ายรูปกันก่อน ตอนนี้ฝั่ง ตึกเรือกำลังจะแสดงแสดงแสงสีแล้ว ใกล้เวลา 2 ทุ่มแล้ว

เวลาการแสดงแสงสีของเจ้าเรือนี้

อา-พฤ 20.00 น และ 21.30 น

ศ-ส. 20.00 น 21.30 น และ 23.00 น.

ระยะเวลาการแสดง 15 นาที

การแสดงแสงสี เป็นแบบ Light and water show ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

สวยมากขอบอก ตระการตา

เหนื่อยมากแล้วขาก็ชักจะก้าวไม่ออกซะแล้วซิวันนี้สงสัยวันนี้ต้องไปกับพี่แทกเสียแล้ว

อะ ๆ ทำเป็นสงสัย ก็ที่แท็กซี่ไง

กลับถึงโรงแรม 4 ทุ่มครึ่ง หัวถึงหมอน หลับถึงเข้า

แล้วพบกันใหม่วันกลับนะคะ

โปรดติดตามตอน 4 เร็ว ๆ นี้

วันนี้สวัสดีคะ

เที่ยวสิงคโปร์ 3 วัน ฮาสุด ๆ (2)

กลับมาแล้วนะคะ
ขอบคุณท่านที่ติดตามอ่านประสบการ์ณ์ครั้งแรกที่บินไปสิงค์โปร์นะคะ

ต่อจากตอนที่แล้ว ขณะนี้ครีมก็ได้มาถึงสถานี sentosa express แล้วนะคะ

เดี๋ยวเราเข้าไปซื้อตั๋วรถไฟฟ้ากัน
มาแล้ว หน้าตาตั๋วเป็นแบบนี้คะ ใบ ล ะ 3.5 เหรียญ
ขึ้นกี่เที่ยวก็ได้

ในที่สุดก็ถึงแล้ว ยูนิเวอร์แซลสตูสิง  ค คคค โปร  รรร

ถึงแล้วต้องซื้อตั๋วก่อนดีกว่า คิวไม่ค่อยยาวเท่าไหรโชคดีจัง ฝนทำท่าจะตกด้วยคะ

ครีมถามเพื่อนที่อยู่สิงคโปร์ก่อนหน้าที่จะเดินทางมาแล้ว ว่าสภาพอากาศที่นี่เป็นอย่างไร เขาบอกว่า อากาศค่อนข้างร้อนให้เตรียมหมวกมาใส่ที่นี่ด้วย แต่มาถึงฝนใกล้จะตกเลยโชคดีมากเลลยยย

ซื้อตั๋วก่อนนะคะ

อ๋า ได้ตั๋วมาแล้ว แต่หิวแล้วหละซิสงสัยต้องแวะเติมพลังก่อนเข้าไปตลุยสวนสนุก 555

เอาหละ แวะที่นี่ก็แล้วกัน

ไหนดูซิมีอะไรให้กินมั่ง 

ครีมเลือกกินข้ามันไก่ ราคา 4 เหรียญ

พอซื้อเสร็จเหลือบไปเห็นของคุณเพื่อนร่วมทริปเขาซื้อ ข้าวอบหม้อดิน ราคา 8 เหรียญ 

พอสั่งเสร็จ คนขายเขาให้นาฬิกา เป็นจานกลม ๆ สีขาวมาให้ ถ้ามันมีสีแดงขึ้นแปลว่าสุกแล้ว ก็แปลกดีคะ เรามาดูกันนะคะ หน้าตา ข้าวอบหม้อดิน 

อิมกันแล้ว ไปลุยต่อกันเลยคะ

ก่อนอื่นต้องหาแผนที่เสียก่อนนะคะ

ทรานฟอร์เมอร์ขอบอกสนุกมากเหมือนเราอยู่ในเหตุการณ์เลย

มัมมี่ขออนุญาตนำหน้านางแบบออกนะคะ เขิล 555

ดินแดนไดโนเสาร์

อันนี้น่ารักมาก ๆ ขอบอก

ดูหน้าตาคุณพี่เขาซิไปโกรธใครมา โกรธครีมหรือเปล่าก้ไม่รู้ หรือว่า โกรธที่ให้ยืนนานแล้วเมื่อยหรึเปล่าคุณพี่ 555

สำหรับที่ 2 นี้กว่าจะออกมาได้เล่นเอาซะเกือบค่ำ สนุก มาก 

โปรดติดตามต่อตอน 3 นะคะ เเล้วพบกันคะ

เที่ยวสิงค์โปร 3 วัน ฮาสุด ๆ (1)

บล๊อกครีมแบ่งปัน นะคะ วันนี้จะแบ่งปัน นำเที่ยวสิงคโปร์ให้เพื่อน ๆ คะ จะสนุก ขำขันมัน ฮาขนาดไหน เราไปติดตามกันเลยคะ

ทริปนี้เราไปกัน 10 คนนะคะ เด็ก 3 ผู้ใหญ่ 7     3 ครอบครัว
เดินทางโดย สาย การบิน สกู๊ตแอร์ไลน์ เที่ยวค่ำ กลับเที่ยวเย็น

bangkok - singapore          TZ301(Fly)       12 Oct 2012        20.00-23.15     Changi Airport Terminal 2
singpore - bangkok            TZ302(Fly)       14 Oct 2012        17.25-18.45     Suvarnabhumi Intl Terminal

วันที่ 1 เริ่มต้นเดินทางสู่สิงค์โปร

ทริป เราทั้ง 10 คนทยอยเดินทางกันไปถึง สุวรรณภูมิ กัน กลุ่มสุดท้ายคือครีมเอง 555 เลท ตามเคย ถึงเวลา 1 ทุ่ม ตรงพอดีเปะ ไม่ขาดไม่เกิน ไปเช็คอินที่เค้าเตอร์ โซน G ชั้นผู้โดยสารขาออก บนสุดเลย ไปถึงเจ้าหน้าที่ บ่นนิดหน่อย บอกกับพวกเราว่า "เคาเตอร์กำลังจะปิดแล้ว กรุณาตรงต่อเวลาด้วยครับ พวกคุณมีเด็ก ๆ มาด้วย เดียวจะไม่มีที่นั่งกับผู้ใหญ่นะ เดียวได้ไปนั่งกับผู้โดยสารคนอื่นจะดูแลลำบาก"

อุปสรรคเกิดนิดหน่อย คือ เราซื้อตั๋ว แบบ ไม่โหลดกระเป๋าสายการบิน สกู๊ด อนุญาตให้ถือกระเป๋าขึ้นเครื่องได้ คนละ 7 กก + labtop 2 กก. ข้อห้าม คือ ของเหลว น้ำ โลหะ (เช่น เจล ครีม โลชั่น กรรไกร มีด เป็นต้น ) บังเอิญ เรามีสำภาระพวกของใช้ส่วนตัว ครีมอาบน้ำ โลชั่น น้ำหอม และอื่นๆ เลยต้องซื้อ โหลดกระเป๋า หน้า เคาเตอร์ เลยโดน ไป 900 สบายแฮร์ 555

แนะนำเพื่อน ๆ ให้ซื้อกระเป๋าเผื่อไปเลยตอนซื้อตั๋วเครื่องบิน ให้สบายใจเรื่อง การรับกระเป๋า ที่ changi  รับกระเป๋าเร็วมากกกกก แบบพอลงจากเครื่อง ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง ออกมา ก็ รับกระเป๋าได้เลย สะดวก จริง ๆ

โอ้วาว เราได้ที่นั่งแถวหน้าสุดของ economic class เลย (อธิบาย แถวติดกับ business class 555)

แล้วเราก็ได้นำทุกท่านเดินทางมาถึง สนามบิน Changi Airport Terminal 2 เวลา 23.15 เทียบเวลากับบ้านเรา ที่สิงคโปรบ้านเขาเร็วกว่าบ้านเรา 1 ชม. เวลาถ้าเป็นเวลานี้บ้านเราก็ 4 ทุ่ม 15

ตอนผ่านตรวจคนเข้าเมือง ติดขัดนิดหน่อย น้องผู้หญิงคนที่ไปด้วย เขาไปเช็คอินคนแรก พอดีน้องเขาภาษาอังกฤษไม่ค่อยแข็งแรง เจ้าหน้าที่เขาอะไรสักอย่างน้องเขาทำหน้าเหย่    ????
ครีมเลยต้องเข้าไปจัดการสักหน่อย อ๋อเขาถามว่า มีตั๋วมาขาเดียวหรือ ครีมเลยโชว์ voucher การจองตั๋วไปกลับ เจ้าหน้าที่ เขาก็บอก OK ผ่าน    555

เราจองโรงแรม ย่าน little india แถว ๆ ถนน dicson คะ เป็น โรงแรม 2 ดาว +อาหารเช้า จอง 2 คืน
ชื่อโรงแรม Zenobia เป็น ตึกแถว 4 ห้อง แบบ แบ่ง ซอย เป็นห้อง ๆ ให้พัก เจ้าของเป็นคนจีน อัธยาศัยดี
เราไปกัน 10 คน ครีมจอง
ห้อง standard 2 (ผู้ใหญ่ 2+เด็ก1 ต่อห้อง)ในห้องเป็นเตียงขนาด 4.5 ฟุต นอนเบียดกันนิดหน่อย แต่ก็โอเค
 ห้อง ดีลักซ์ 1 ห้อง (ผู้ใหญ่ 3+เด็ก 1ต่อห้อง) 10 คนพอดี
ในห้องเตียงเป็นขนาด 4.5 ฟุต 1 เตียง+2.5 ฟุต 1เตียง  เอาไว้นอนก็พอไหว
แต่จะว่ากันไปนอนแค่เป็ปเดียวเอง เพราะวันแรกกว่าจะถึงโรงแรม ก็ ตี 1 เข้าไปแล้ว

เอ้าลืมเล่าตอนเดินทางจากสนามบินไปโรงแรม
ครีมไปติดต่อ รถ ของ airport shuttle ที่เค้าเตอร์สนามบิน เค้าคิดค่าส่ง 60 เหรียญ ให้นั่งแค่ 7 คน
ส่วนอีก 3 คนนั่งแทกซี่ไป จ่าย ไป 27 เหรียญ
จริงๆ  ถ้านั่งแท็กซี่ไป 2 คัน จะประหยัดกว่า เพราะ ที่สิงคโปร์เท็กซี่เขาอนุญาตให้นั่งสูงสุดก็จริงแต่เด็กเขาให้นั่งตักได้ ไว้วันหลังค่อยไปใหม่

วันที่ 2  ตลุย  Resorts World sentosa Universal Studios
ตื่นนอนกัน 8 โมงเช้า(7โมงบ้านเรา)
มาทานอาหารเช้ากัน ที่โรงแรมเขาจัดให้อาหารเช้าเป็นแบบกาแฟ โอวันติน ขนมปังปิ้ง มีเนย น้ำตาล แยมผลไม้มีให้เลือก สตอ สัปปะรด ส้ม

ก็โออยู่ สำหรับราคานี้นะ
ลืมบอกเรื่องราคาค่าที่พัก
ห้อง แสตนดาร์ด คืนละ
ห้อง ดีลักซ์ คืนละ

เริ่มออกเดินทาง
เราเดินไปตามถนนหลังโรงแรม นั่นตึก sim lim square เห็นเขาว่า เป็นแหล่งไอทีที่ราคา ใช้ได้ มีทุกอย่าง จำพวก คอมพิวเตอร์ กล้องดิจิตอล เกม เห็นเขาว่า ชั้น 6 จะมีเยอะมาก ถ้ามีโอกาสจะกลับมาเดินนะ แต่ตอนนี้ ต้องเดินทางไป เกาะเซนโตซาแล้ว
เราเดินมาถึงสถานี MRT BUGIS ซื้อตัวไป Harbour Front (Sentosa express)
ซื้อตัวรถ ราคา 1.6เหรียญ +ค่ามัดจำบัตร 1เหรียญ

เราเดินทางมาถึงห้าง vivo city กันแล้ว แวะเดินเล่นที่สวนสาธารณะของห้าง ถ่ายรูปกันนิดหน่อยพอหอมปากหอมคอ แล้วเดินขึ้นไปชั้น 3 ต่อรถไฟฟ้า สถานี sentosa express เพื่อต่อไปยัง waterfront station
ค่าตั๋วรถ 3.5 เหรียญ


ถึงแล้ว Universal studio
เราเดินทางมาถึงเวลา เที่ยวพอดี แวะเติมเชื้่อเพลิงกันก่อนดีกว่า (กินข้าวนะคะ)

ได้เวลาตลุยสวนสนุกแล้ว common baby

โปรดติดตามตอน 2